00 - 18. 00 น. เว้นวันหยุดราชการ) เพราะเงื่อนไขสามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับประวัติและสถานะทางการเงินของ ผู้เช่าซื้อให้ทีมงานมืออาชีพของ ช่วยดูแลคุณนะคะ กรณีลูกค้าที่ติดแบล็คลิส มีงานประจำ รายได้ 2. 5 -3 เท่าของค่างวด (กรณีงานประจำ) เงินเดือนต้องผ่านบัญชีธนาคาร และหากพักอาศัยตรงตามทะเบียนบ้าน ซึ่งสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือในการขอสินเชื่อได้และหากมีประวัติการผ่อนชำระที่พักอาศัยที่ดีก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการอนุมัติเพิ่มมากขึ้น สามารถส่งเอกสารมาให้ทางทีมงานตรวจสอบก่อน(เบื้องต้น) 1. ) ถ่ายภาพ เอกสารสำหรับขอสินเชื่อมาได้ที่ Line ID: car2home 2. ) Scan แล้วส่ง E-mail หรือ ส่งมาอย่างละ 1 ฉบับ 3. ) ส่งจดหมายมาที่ Car2home (คาร์ทูโฮม รถบ้านสวย) 357/5 ม. 4 ถ. การเคหะร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพ 10520 3. ) เดินทางมาด้วยตัว ต้องโทรนัดล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน เปิดทำการทุกวัน จันทร์-อาทิตย์ เวลา 9. 00 – 18. 00 น. 4. )
ถามว่ามีจริงไหมต้องบอกว่ามันก็เป็น ผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ที่บางธนาคารทำออกมาครับ แต่มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะล่อย เราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าการที่บอกไม่คิดภาระหนี้เดิม มันหมายถึงวิธีการคำนวณการปล่อยสินเชื่อเขาจะต่างออกไปจะต่างออกไปครับ โดย ธนาคารจะไม่ได้คิดวงเงินที่เรากำลังขอกู้เป็นวงเงินก้อนที่ 6 ครับ แต่ธนาคารจะพิจารณา 2 ข้อหลักๆ คือ 1. ยอดหนี้คงเหลือปัจจุบันของคุณเมื่อเทียบกับราคาประเมินหลักทรัพย์ปัจจุบัน (ราคาบ้านหรือคอนโดของคุณในปัจจุบัน) มีวงเงินส่วนต่างประมาณเท่าไร ตัวอย่างเช่น ผมซื้อบ้านราคา 3 ล้าน ผ่อนมาแล้ว 10 ปี ตอนนี้เหลือยอดหนี้ประมาณ 2 ล้านบาท ถ้าธนาคารให้สูงสุดที่ 80% ของราคาบ้าน เท่ากับเรากูได้ 2. 4 ล้านบาท ก็จะมีส่วนต่างประมาณ 400, 000 บาท 2.
เรื่องมันเริ่มจากเศรษฐกิจฝืดเคือง ค้าขายอะไรก็ไม่ได้กำไร ทำให้รายรับน้อยกว่ารายจ่าย ส่งผลให้ไม่มีเงินหมุนในกระเป๋าเหมือนเมื่อก่อน พองวดผ่อนรถยนต์วนมาถึงก็ต้องคิดหนักว่าเดือนต่อๆ ไปจะทำยังไงดี เพราะตอนนี้ก็ใช้เงินเก็บที่มีมาจ่ายก่อน พอเจอทางออกว่าให้ รีไฟแนนซ์รถยนต์ เพื่อ ปรับโครงสร้างหนี้ ก็กังวลใจ เพราะรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดทำได้ด้วยเหรอ เพราะเพิ่งผ่อนรถได้แค่ 1 ปีเท่านั้นเอง!?
ด้วยความที่ประกันภัยรถยนต์เป็นประกันภัยภาคสมัครใจกฎหมาย "ไม่บังคับ" แต่มีไว้ก็ไม่เสียหายครับ เนื่องจากอุบัติเหตุนั้นไม่มีใครคาดเดาได้ แม้เราระวังแค่ไหนก็มีสิทธิ์เกิดอุบัติเหตุได้อยู่ดี ดั่งคำว่า "เราไม่ชนเขา เขาก็อาจจะมาชนเราได้" ถ้าถามว่า รถติดไฟแนนซ์ไม่ต่อประกันได้ไหม? คำตอบแบบตรง ๆ คือ "หากคุณไม่ทำประกันรถยนต์ก็ได้ครับ แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้น คุณต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย ค่าซ่อมรถด้วยตนเอง!! "
เพราะถ้าใครมีปัญหาเรื่องเครดิตบูโรแล้วจะไม่สามารถขอกู้สินเชื่อไม่ว่าประเภทใดได้เลยค่ะ เลือกลดหนี้ด้วย "รีไฟแนนซ์" หรือ "ทนก้มหน้าก้มตาใช้หนี้เดิม" ต่อไป แบบไหนเหมาะกับเรา? ทุกอย่างต้องมีทางออก มันอยู่ที่ว่าเราจะเลือกทางไหนก็แค่นั้นเอง แต่เราต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตเราจริงมั้ยค่ะ งั้นเรามาดูกันว่าตกลงแล้วเราจะเลือกลดหนี้ด้วย "รีไฟแนนซ์" หรือจะทนก้มหน้าก้มตาใช้หนี้เดิมต่อไปดี เริ่มด้วยการเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของตัวเลือกทั้งสองนี้กันนะคะ ทางเลือก ข้อดี ข้อเสีย 1. ลดหนี้ด้วยรีไฟแนนซ์ มีเงินก้อนในการชำระหนี้เก่า ลดค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระต่อเดือนได้ จ่ายดอกเบี้ยในอัตราถูกกว่าหนี้เดิม ส่วนใหญ่จะได้ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก มีโอกาสได้เริ่มต้นวางแผนทางการเงินใหม่ แบ่งเบาหนี้ระยะสั้น แต่อาจเป็นหนี้นานขึ้น อาจก่อให้เกิดหนี้สินล้นพ้นตัว หากขาดการวางแผนทางการเงินที่ดี 2. ทนใช้หนี้เดิมต่อไป ไม่ต้องเป็นหนี้ก้อนใหม่เพิ่ม ต้องจ่ายหนี้ด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงต่อไป ต้องดิ้นรนหาเงินมาจ่ายหนี้ให้พอในแต่ละเดือน หากรายรับไม่พอกับรายจ่าย ซึ่งอาจจะทำให้เราตัดสินใจไปกู้เงินนอกระบบได้ ถ้าเรายังคงชำระหนี้ขั้นต่ำอยู่ จะทำให้ดอกเบี้ยมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากข้อสรุปข้างต้นนี้ เราอาจจะเห็นว่าถ้าเรามาถึงทางตัน โดยที่เราเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ต้องจ่ายหนี้เกินรายได้ที่รับมาทุกเดือนจนมาถึงเดือนที่เงินเก็บที่เคยมีก็ไม่เหลือแล้ว เราก็ควรต้องเลือกที่จะลดหนี้ด้วยการขอกู้สินเชื่อรีไฟแนนซ์เพื่อเอามาจ่ายหรือปิดหนี้เก่าให้ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเราลดลงบ้าง (เป็นการต่อลมหายใจอีกเฮือก!! )