ก็จะไหลไปที่ระบบของการตรวจสอบผู้โดยสาร เช่น เข้าไปพักที่ไหน ข้อมูลก็จะเข้าระบบ เข้าไปที่พักอาศัยนั้นๆ เอื้อผู้ประกอบการ โรงแรมที่พัก พอถึงเวลาก็จะไป เขาไปพักที่โรงแรมนั้น โรงแรมก็ไม่ต้องดำเนินการอะไร ก็แค่คีย์ว่ามาถูกต้องแล้ว ถ้าไม่ถูกต้อง โรงแรมก็ต้องแจ้งข้อมูลมา คล้ายของเดิม แต่มันจะดีขึ้น เร็วขึ้น สะดวกขึ้น มันเอื้อต่อผู้ประกอบการมากขึ้น แล้วทุกอย่างมันจะเป็นระบบ ในคอมพิวเตอร์ ลิงค์เกตเซนเตอร์ตามนโยบายสร. 1 คือต่อไปตามนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี ต้องการให้ระบบราชการไทย มันเป็นลิงค์เกตเซ็นเตอร์ ทุกอย่างทุกหน่วยงาน ข้อมูลต้องเชื่อมถึงกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกรมการปกครอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือหน่วยงานไหน อันนี้ผมมองว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ว่าในอนาคตอันใกล้ ผมมองอย่างนั้น ถ้าสามารถทำได้เร็วเท่าไหร่ จะเป็นประโยชน์มากที่สุด บาร์โค้ดบัตรเดียวจบ ซึ่ง ตม. เรานี่ ถ้าถามใจผมนะ ทำยากมั้ยในระบบการดูแล ไม่ยาก ผมเชื่อว่าอีกไม่เท่าไหร่เหมือนกัน ก็ถึงเวลาเช่นเข้ามา มีวีซ่า มีบาร์โค้ด มีอะไร เพราะฉะนั้นคนต่างชาติ คนต่างด้าว จะไปทำอะไรไม่ว่าจะซื้อตั๋วเครื่องบิน ตั๋วรถไฟ ตั๋วเรือ หรือจะไปธนาคาร หรือโรงแรม ใช้บาร์โค้ดตรงนี้ทุกสิ่งทุกอย่างจะรู้ทันที วินๆทั้งตำรวจและคนต่างชาติ ถ้าเขาทำหาย ก็ไปทำใหม่ ไปไหนไม่ได้ ต้องรีบแจ้ง ตม.
สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช. สันติบาล ที่จะย้ายก้นมาที่นครบาล ก็ดูเหมือนจะฝ่าด่านชาญเทพยาก ถ้าหากพล. สุวัฒน์พลาดนครบาลก็จะขยับมาเป็น ผบช. ภ. 1 ส่วน พล. จิตติ รอดบางยาง ผบช. 2 เดิมมีชื่อจะมาเป็น ผบช. แต่ก็มีกระแสข่าวจะถูกดันขึ้นผู้ช่วย ผบ. ทำให้ต้องย้อนกลับมารักษาเก้าอี้เดิม แบบไม่เสี่ยงตีนลอยดีกว่า จากการแย่งชิงตำแหน่งเจ้าพ่อนครบาล และตำแหน่งผู้บัญชาการพื้นที่กับหน่วยขึ้นตรงสตช. อีกหลายแห่ง ผลสุดท้ายเก้าอี้เกรดเอน่าจะเป็นของรุ่น นรต. 36 ที่เป็นรุ่นของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ส่วนคู่ชิงก็คือรุ่น35 เป็นนรต. รุ่นของรองผบ. อย่าง พล. ศรีวราห์ รังสิพรามณกุลกับพล. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน หน่วยงานที่น่าสนใจ คือ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่มีพล. ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช. สตม. ที่ช่วงหลังตม. ถูกวิพากษ์วิจารณ์การทำงานหลายเรื่อง แม้จะใกล้ชิด พล. ประยุทธ์ แต่ก็น่าจะถูกดันขึ้นผู้ช่วย ผบ. แล้วโยก พล. สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช. 7 นรต. 36 เพื่อนร่วมรุ่น ผบ. มาเป็น ผบช. พล. สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช. นรต. 36 เพื่อน ผบ. และเป็นน้องชาย พล. พิชิต ควรเดชะคุปต์ สนช. ขึ้นเป็น ผบช. 7, พล. รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช. ศชต. 36 ขยับเป็น ผบช.
28 มกราคม 2565 'พันธุ์เทพ' นัดฟังปราศรัยใหญ่ 'ไทยภักดี Special' ย้ำจุดยืน 'ปกป้องสถาบัน-ปราบโกง' 'พันธุ์เทพ'นัดฟังปราศรัยใหญ่ 'ไทยภักดี Special' ย้ำ "จุดยืนไม่เคยเปลี่ยน ปกป้องสถาบันกษัตริย์ ยึดความถูกต้อง ปราบโกง 26 มกราคม 2565 'นก-ฉัตรชัย' เพื่อนร่วมรุ่น 'บิ๊กหยม' ขอแรงใจหนุนพรรคไทยภักดี เลือกคนดีเข้าสภา30ม. ค. นี้ 'นก-ฉัตรชัย'เพื่อนร่วมรุ่น'บิ๊กหยม' ขอแรงใจพี่น้องชาวไทยและศิษย์เก่า ภปร. ราชวิทยาลัย ทุกรุ่น มาช่วยกันสนับสนุนพรรคไทยภักดี ได้ก้าวย่างอย่างมั่นคง เริ่มจากชาวหลักสี่-จตุจักร กาเบอร์1 บอส-พันธุ์เทพ 30 ม. ค นี้. 19 มกราคม 2565 เปิดตัว 'ทินกร' ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม. ตอกย้ำสัมพันธ์ 'วรงค์-ชาญเทพ-อัศวิน-ถาวร' เปิดตัว 'ทินกร ปลอดภัย' ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม. คนใหม่ ตอกย้ำ ความสัมพันธ์ นพ. วรงค์ พล. ต. ท. ชาญเทพ พล. อ. อัศวิน และถาวร เสนเนียม ขั้วการเมืองใหม่ 5 มกราคม 2565 ดีเอ็นเอตรงกัน! บิ๊กหยมเปิดใจนั่งเลขาธิการพรรคไทยภักดี 'บิ๊กหยม' เปิดใจนั่งเลขาธิการไทยภักดี เผยดีเอ็นเอตรงกัน ปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จ่อเปิดตัวใหญ่ปลายเดือนม. นี้ พร้อมหนุนหมอวรงค์นั่งนายกฯ! 3 มกราคม 2565 'ไทยภักดี' ตั้ง 'พล.
ข้ามไปเนื้อหา จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล สมาชิก สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ดำรงตำแหน่ง 6 ตุลาคม พ. ศ. 2558 – 3 สิงหาคม พ. 2560 รอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดำรงตำแหน่ง 1 ตุลาคม พ. 2559 – 30 กันยายน พ. 2562 ข้อมูลส่วนบุคคล เกิด 9 กันยายน พ. 2502 (62 ปี) บิดา สุพีร์ รังสิพราหมณกุล มารดา ชมจันทร์ รังสิพราหมณกุล คู่สมรส กัณมิตศิณี รังสิพราหมณกุล (หย่า) อรวรรณ รังสิพราหมณกุล ศิษย์เก่า โรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 35 ศาสนา พุทธ การเข้าเป็นทหาร ชื่อเล่น ปู สังกัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยศ พลตำรวจเอก การยุทธ์ ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย [1] พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล [2] เป็นนายตำรวจราชองครักษ์ [3] และเป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งที่ปรึกษา นายกรัฐมนตรี (พล. อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา) อดีตสมาชิก สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ, อดีตรอง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านความมั่นคง, ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยการออกเสียงประชามติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ [4] อดีตผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอดีตผู้บัญชาการตำรวจ นายตำรวจราชสำนักเวร [5] ประวัติ [ แก้] พล.
สำนักงานพระพุทธศาสนา 8. อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ฉายา "แมนไทยลีก"ได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาให้ติดตามสืบสวนคดี "ล้มบอลไทยพรีเมียร์ลีก" อย่างลับๆ จนหาข้อมูลและตัวบุคคลจนกระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาที่มีส่วนร่วมในคดีได้เป็นจำนวนมากจึงเป็นที่มาของ ฉายา "แมนไทยลีก" 9. พ. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล ฉายา "นักสืบโลกลืม" เนื่องจากว่าเป็นนายตำรวจที่อยู่เบื้องหลังการปิดคดีสำคัญ แต่กลับกันการแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา พ. นพศิลป์ ไม่เห็นแม้แต่เงา เรียกได้ว่าท่านเป็นผู้ที่ทำงานอยู่เบื้องหลังจนงสำเร็จแทบทุกคดี จึงเป็นที่มาของ ฉายา "นักสืบโลกลืม" 10. ภูมินทร์ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ฉายา "เอ็ม 5 บ้าพลัง" จากเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหาคดีโจรกรรมรถยนต์ กระโดดหนีจากห้องสอบสวนกองปราบปราม ซึ่ง พ. ภูมินทร์ ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ จึงได้วิ่งไล่ตามคนร้ายจนกระทั่งจับกุมตัวไว้ได้ แล้วได้จับผู้ต้องหาแบกขึ้นบ่า จึงที่เป็นที่ของฉายา "เอ็ม 5 บ้าพลัง"
ในยุค คสช. เมื่อ 13 ตุลาคม 2559 เขาเคยแจ้งบัญชีทรัพย์สินฯต่อ ป. ป. ช. เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง สนช. ว่ามีทรัพย์สินจำนวน 128, 284, 977 บาท ชีวิตหลังเกษียณไปทำสวนทำไร่ที่เขาใหญ่ และเป็นทีมงานช่วยงานนายถาร เสนเนียม และล่าสุดมานั่งเป็นเลขาธิการพรรคไทยภักดี คนแรก
เด้ง "วินัย ทองสอง" พ้นเก้าอี้ ผบช. น. ช่วยราชการ 4 เดือน ให้ "คำรณวิทย์" มีผลทันที จาก มติชน ↑ ก. ตร. มติเอกฉันท์! "คำรณวิทย์"นั่ง ผบช. -"วินัย"นั่ง ผบช. ภ. 1 จากผู้จัดการออนไลน์ ↑ "โยก 8 ผบช. เข้ากรุ ปฏิรูปตั้งกระทรวงตร". ผู้จัดการออนไลน์. 25 May 2014. สืบค้นเมื่อ 29 May 2014.