พื้นฐานของ เครื่องวัดความเร็ว ลมจะถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งาน ซึ่งทั่วไปจะมีอยู่ 2 แบบ คือ HOT WIRE, Vane Anemometer
1. เครื่องวัดความเร็วลมแบบเทอร์โมอิเล็คทริค ( HOT WIRE) เซ็นเซอร์วัดลมแบบ HOT WIRE จะมีเวลาในการตอบสนองอย่างรวดเร็วและความไวที่ดีต่อการไหลของอากาศที่ต่ำมาก น้อยกว่า 1 เมตรต่อวินาที แต่เซ็นเซอร์วัดลมทั้งสองประเภทจะไม่เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วย ฝุ่น, ความชื้น, กัดกร่อนหรือในที่ที่มีความผันผวนของ อุณหภูมิ อย่างรวดเร็ว ซึ่งจะมีต่ออัตราการระบายความร้อน
2. เครื่องวัดความเร็วลมแบบใบพัด ( Vane Anemometer) เครื่องวัดลมแบบนี้จะทำงานบนหลักการที่ว่าใบพัดจะหมุนได้อย่างอิสระ และจะหมุนด้วยความเร็วที่เป็นสัดส่วนโดยตรงกับความเร็วลม ซึ่ง เครื่องวัดความเร็วลม แบบใบพัดโดยส่วนใหญ่จะมีช่วงการวัดอยู่ที่ 0. 15 ถึง 40 เมตรต่อวินาที และถูกได้ออกแบบมาให้ใช้ประโยชน์ที่หลากหลายของการใช้งานรวมทั้งในสภาพแวดล้อมที่ค่อนข้างรุนแรง เครื่องวัดความเร็วลมแบบใบพัดนี้จะไม่สามารถวัดความเร็วลมที่ต่ำๆได้เหมือนกับเครื่องวัดความเร็วลมแบบเทอร์โมอิเล็คริค (HOT WIRE)
5) ในขณะที่กระดาษแดงเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินในสภาวะที่เป็นด่าง (pH สูงกว่า 8. 3) สำหรับการประเมินค่า pH ของของเหลว pH Test Strip เป็นกระดาษที่ใช้ทดสอบสมบัติความเป็นกรด-เบสของของเหลว มีหลายย่านการวัดให้เลือกได้แก่ 0-14pH, 0. 0-6. 0pH, 4. 5-9.