ฝึกฝนให้มากขึ้น มีหลายคนที่เริ่มเรียนโปรแกรมมิ่งด้วยการใช้หนังสือ และศึกษาจากทฤษฎีจนใช้เวลานานหลายเดือนโดยยังไม่ได้ลองเขียนโค้ดจริง ซึ่งนับเป็นความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่มาก เนื่องจาก "การฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ" ถือเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะเรื่องของการเขียนโปรแกรม 5. อย่าลืมผ่อนคลายบ้าง งานด้านเขียนโปรแกรมนับเป็นงานที่ตื่นเต้น แต่ก็สูบพลังงานไปมากด้วยเช่นกัน หลายครั้งที่ผู้คนต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการแก้ไขบั๊กตัวเดียวโดยไม่มีแนวทางแก้ไข จนกระทบกับตารางชีวิตทั้งการกินการอยู่ ซึ่งไม่ใช่ภาวะที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเลยโดยเฉพาะถ้ายังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ที่มา: Technotification
เซสชั่นออนไลน์สำหรับเด็ก: เรียนรู้วิธีเขียนโค้ด 2 - Apple Global Nav เปิดเมนู Global Nav ปิดเมนู Apple ถุง ร้าน Mac iPad iPhone Watch AirPods TV และบ้าน เฉพาะที่ Apple อุปกรณ์เสริม บริการช่วยเหลือ ถุง
ทำงานทีละอย่าง สมาธิแบบรู้ตัวของคนเราจดจ่อได้เพียงทีละอย่างเท่านั้น และทุกครั้งที่สลับงานไปมา น้องๆจะเสียทั้งเวลา ความทุ่มเท และพลังงาน ถ้าพยายามทำงานทีละหลายๆ อย่าง หรือสลับงานไปมาอย่างรวดเร็ว ระดับความสามารถและประสิทธิภาพจะต่ำลง ด้วยเหตุนี้จึงควรโฟกัสที่งานเป็นอย่างๆ ไป ขั้น4. ต่อจุด ข้อมูลที่อยู่เดี่ยวๆ แทบไม่ค่อยมี มันมักจะเชื่อมโยงกับข้อมูลอื่นๆ เสมอ การมองในภาพรวม การใช้ความรู้ของตัวเอง หรือจัดโครงสร้างของข้อมูลที่ได้รับจะทำให้สมองสามารถประมวลผลข้อมูลได้ง่ายขึ้น และดึงข้อมูลมาใช้ได้ถูกจุดอีกด้วย ขั้นที่5. ใช้สมองเยอะๆ ยิ่งใช้สมองในการซึมซับหรือทบทวนข้อมูล ก็ยิ่งประมวลผลข้อมูลได้ดี เหมือนได้บริหารสมองอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง ขั้นที่6. ใช้ภาพ การเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นภาพคือการพูดภาษาที่สมองเข้าใจได้ดีที่สุด ผลคือคุณจะจำข้อมูลได้รวดเร็วและนานมากยิ่งขึ้น เช่น การจำตัวอักษรภาษาญี่ปุ่นเป็นภาพ การจำเรื่องราวเป็นภาพ ฯลฯ ขั้นที่7. เทคนิคที่อาจไม่ได้ผล เทคนิคที่เป็นที่น้องๆนิยมทำกัน ไม่มีประสิทธิภาพหรือมีประโยชน์น้อย เมื่อเทียบกับเวลาที่ต้องใช้ เมื่อเทียบกับเทคนิคที่ดีที่สุดทั้ง 2 แบบ หรือการซักถามและการอธิบาย -Highlighting การทำไฮไลท์ หรือขีดเส้นใต้ เป็นเรื่องง่ายๆ ที่เราทำ แต่การทดลองพบว่า มันจะไปลดความสามารถในการสรุปเนื้อหา เพราะมันจะทำให้เราสนใจแต่ส่วนที่เราทำไฮไลท์ไว้เท่านั้น -Rereading การอ่านซ้ำ อาจช่วยให้จำได้ดีขึ้นบ้าง แต่ถ้าต้องแลกกับเวลาที่ใช้ เทคนิคการทบทวนหรือการฝึกทำแบบทดสอบด้วยตนเองจะให้ผลที่ดีกว่ามาก 0% B 9%80% E 0% B 8%97% E 0% B 8%
ความสม่ำเสมอสำหรับห้า หากต้องการคูณด้วย 5 คุณต้องบวกห้าในแต่ละครั้ง การพิจารณาเรื่องนี้สะดวกแม้สำหรับนักคณิตศาสตร์ที่อายุน้อยที่สุด จัดการกับเด็กด้วยเลขคู่และคี่ และบอกว่าการคูณ 5 ด้วยคู่ให้ผลลัพธ์เป็น 0 และคี่ - 5 เสมอ 9. ความสม่ำเสมอสำหรับเก้า มีปัญหากับเก้าเพราะคุณต้องดำเนินการกับจำนวนมาก แต่มีรูปแบบที่ตลกคือ ถ้าคุณจดสมการทั้งหมดโดยเรียงลำดับจาก 9x1 ถึง 9x10 คุณจะพบลำดับของตัวเลขตัวแรกและตัวสุดท้ายของคำตอบ อันแรกขึ้นจาก 0 อันหลังขึ้นจาก 9 10. นิ้ว หลักการใช้นิ้วเป็นอีกวิธีหนึ่งในการจัดการกับปัญหาเก้าประการ หากคุณวางฝ่ามือทั้งสองบนโต๊ะและงอนิ้วใดๆ จำนวนนิ้วจะตรงกับตัวเลขของคำตอบเมื่อคูณตัวเลขที่ยกขึ้นด้วย 9ตัวอย่างเช่น หากคุณงอนิ้วที่ 6 จะมี 5 นิ้วอยู่ข้างหน้า และหลังจากนั้น - 4 รวมเป็น 6x9 = 54
เรียนรู้เร็ว จำได้ไว ทำได้ไม่ยาก ด้วย 5 เคล็ดลับที่ Yengobuzz นำมาฝากให้ในวันนี้ ซึ่งจะมีวิธีอย่างไรบ้าง มาติดตามกับเราที่นี่ได้เลยครับ เคยมั้ย? ที่ตั้งใจอ่านหนังสือเพื่อหาความรู้เพิ่มเติมเอาไว้ใช้ในการทำงาน หรือเรียนหนังสือ แต่อ่านเท่าไหร่ก็ไม่สามารถจำเนื้อหาทั้งหมดได้อยู่ดี ต้องใช้เวลาอ่านทบทวนอยู่หลายๆ รอบ กว่าจะเข้าใจทุกอย่างได้ และเพื่อเป็นการลดขั้นตอน และช่วยประหยัดเวลาของคุณ Yengobuzz มี 5 เคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณจดจำสิ่งต่างๆ ได้รวดเร็ว และครบถ้วน มาฝากให้ลองนำไปใช้ครับ 1. เรียนรู้โดยแบ่งส่วน อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนักสำหรับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพราะเมื่อคุณเริ่มต้น ข้อมูล ข่าวสาร และเนื้อหาต่างๆ ก็จะยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น จนทำให้เกิดความยากลำบากต่อการจดจำทั้งหมดในคราวเดียว ซึ่งเคล็ดลับที่จะช่วยแก้ปัญหาที่ว่านี้ได้ดีที่สุดก็คือ พยายามแยกแยะประเด็นต่างๆ ออกเป็นหัวข้อย่อย แล้วค่อยๆ ศึกษาทำความเข้าใจในแต่ละเรื่องต่างอย่างท่องแท้ แล้วจึงค่อยโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน 2. เปลี่ยนพฤติกรรมของคุณ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และจดจำเรื่องราวต่างๆ รวดเร็ว บางครั้งการเปลี่ยน Lifestyle รวมถึงพฤติกรรมของคุณ จะช่วยส่งผลดีต่อการเรียนและจำจดได้มากขึ้น เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ที่จะช่วยบำรุงสมอง หรือ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้สมองปลอดโปร่งและง่ายต่อการจดจำ เป็นต้น ซึ่งเมื่อคุณทำจนเป็นนิสัยแล้ว ไม่ว่าจะคุณเรียนรู้ในเรื่องใดก็ตาม ก็จะสามารถเข้าใจและจดจำได้ง่ายยิ่งขึ้น 3.
วิธีสอนให้ลูกจำเลขเร็ว คือ ใช้ Flash Card Flash Card เป็นไพ่ที่จำมีตัวเลข และ สีสัน ให้ลูกเล่นได้สนุกสนาน คุณอาจะสลับตัวเลข แล้วให้ลูกเรียงตัวเลขอีกรอบ หรือ ให้ลูกทาตัวเลขก็ได้เช่นกัน เด็กเป็นวัยที่สามารถเรียนรู้ได้เร็ว พวกเขาจะเริ่มรู้จักตัวเลข ตั้งแต่ตอนเข้าอนุบาล ด้วยวิธีการสนุกสนานต่าง ๆ พวกเขาจะเรียนรู้ ได้อย่างเข้าใจจริง เมื่อตอนโตแล้ว อย่างไรก็ตามการเรียนรู้ ของเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้น พยายามอย่าเปรียบเทียบเด็กแต่ละคน บทความจากพันธมิตร บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
คุณควรจะเริ่มสอนลูกตั้งแต่ ลูกอายุประมาณ 1 ขวบ คุณอาจจะสอนเขา โดย การร้องเพลง ที่ผสมตัวเลขเข้าไปในเพลงด้วย คุณอาจจะชี้ สิ่งของ ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน และ นับเป็นเลขให้ลูกฟัง เช่น ส้มหนึ่งผล คนสองคน หมาสามตัว คุณสามารถทำให้การเรียนรู้ตัวเลข เป็นอะไรที่สนุกสนานได้ 8 วิธีสอนเลขลูกให้จำเลขเร็ว สอนนับเลข 1. วิธีสอนให้ลูกจำเลขเร็ว คือ สอนโดยการร้องเพลง การใช้เพลง และ กลอนสอนลูก เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่จะทำให้การเรียนรู้ของลูก มีความสนุกมากขึ้น คุณสามารถใช้เพลง ที่เกี่ยวข้องกับตัวเลขได้หลายเพลง เพื่อสอนลูก ลองทำนิ้วเป็นจำนวน ตอนที่คุณร้องเพลงไปด้วยพร้อมกัน มันจะทำให้ลูก รับรู้ได้ว่าตัวเลขนั้น มีความเกี่ยวข้อ งเชื่อมโยงกับนิ้วที่ชูขึ้นมา 2. วิธีสอนให้ลูกจำเลขเร็ว คือ ใช้ตัวเลขเข้ามาเกี่ยวข้องในชีวิตประจำวัน ใช้ตัวเลขในชีวิตประจำวัน เช่น ให้ลูกช่วยหยิบของ กี่ชิ้น ก็ว่าไป คุณอาจจะให้ลูก ช่วยนับของที่ซื้อเข้าบ้านด้วยก็ได้ อีกหนึ่งไอเดีย คือ ลองให้เขานับของเล่น พอนับเสร็จ ก็เอาของเก็บใส่กล่อง บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ: จัดให้คุณหนู! รวมคลิปการ์ตูนสอนลูกนับเลข 1-10 ที่ดีที่สุด 3. วิธีสอนให้ลูกจำเลขเร็ว คือ เล่นเกมส์ตัวเลขกับเด็กเป็นกลุ่ม เด็กเรียนรู้ได้ง่ายขึ้น เมื่อเขาได้เล่นกับเด็กคนอื่น คุณอาจจะให้เด็กแข่งกันแบบเล่น ๆ ไม่จริงจัง เพื่อให้พวกเขาหัดนับเลข เป็นวงกลม ทีละคน ทีละคน 4.