คำที่มีพยัญชนะควบกล้ำ 5. บทที่ 3 ครัวป่า--ฝึกอ่านพยัญชนะควบกล้ำ ร ล 5. บทที่ 4 กลัวทำไม--ฝึกอ่านพยัญชนะควบกล้ำ ว 5. คำที่มีอักษรนำ 5. บทที่ 5 ชีวิตใหม่--อักษรนำ ห นำ 5. คำที่มีความหมายตรงข้ามกัน 5. บทที่ 9 รักพ่อ รักแม่--อ่านและสังเกตคำที่มีความหมายตรงข้ามกัน 5. คำที่มี รร(ร หัน) 5. บทที่ 11 เด็กดี--คำที่มี รร(ร หัน) และเครื่องหมายต่างๆ ทัณฑฆาต( ์), ไม้ยมก(ๆ), อัศเจรีย์(! ), อัญประกาศ(" ") 5. บทที่ 6 ยายกะตา--คำศัพท์ท้ายบท 5. บทที่ 6 มีน้ำใจ--อักษรนำ ห นำ อ นำ 5. ความหมายของคำ 5. วรรณคดีลำนำ 5. บทที่ 1 ดอกสร้อยแสนงาม--คำศัพท์ท้ายบท 5. บทที่ 3 รื่นรสวักวา--คำศัพท์ท้ายบท 5. บทที่ 4 ไก่แจ้แซ่เสียง--คำศัพท์ท้ายบท 5. บทที่ 5 ภาพวาดของสีเทียน--คำศัพท์ท้ายบท 6. เรียบเรียงคำเป็นประโยคได้ตรงตามเจตนาของการสื่อสาร 6. การแต่งประโยค 6. ภาษาพาที 6. บทที่ 1 น้ำใส--เลือกเขียนคำในประโยค "อธิบายเพิ่มเติมความรู้" 6. บทที่ 7 นักคิดสมองใส--อ่านคล่องร้องเล่น "สายรุ้ง" 6. บทที่ 3 ครัวป่า--เลือกเขียนคำในประโยค "อธิบายเพิ่มเติมความรู้" 6. บทที่ 4 กลัวทำไม--เลือกเขียนคำในประโยค "อธิบายเพิ่มเติมความรู้" และเลือกคำมาแต่งประโยค 6.
เขียน/วาดมโนทัศน์หลักตรงกึ่งกลางหน้ากระดาษ 2. เขียน/วาดมโนทัศน์รองที่สัมพันธ์กับมโนทัศน์หลักไปรอบ ๆ 3. เขียน/วาดมโนทัศน์ย่อยที่สัมพันธ์กับมโนทัศน์รองแตกออกไปเรื่อย ๆ 4. ใช้ภาพหรือสัญลักษณ์สื่อความหมายเป็นตัวแทนความคิดให้มากที่สุด 5. เขียนคำสำคัญ (Key word) บนเส้นและเส้นต้องเชื่อมโยงกัน 6. กรณีใช้สี ทั้งมโนทัศน์รองและย่อยควรเป็นสีเดียวกัน 7. คิดอย่างอิสระมากที่สุดขณะทำ เขียนคำหลัก หรือข้อความสำคัญของเรื่องไว้กลาง โยงไปยังประเด็นรองรอบ ๆ ตามแต่ว่าจะมีกี่ประเด็น กฏการสร้าง Mind Map 1. เริ่มด้วยภาพสีตรงกึ่งกลางหน้ากระดาษ 2. ใช้ภาพให้มากที่สุดใน Mind Map ของคุณ ตรงไหนที่ใช้ภาพได้ให้ใช้ก่อนคำ หรือรหัส เป็นการช่วยการทำงานของสมอง ดึงดูดสายตา และช่วยความจำ 3. ควรเขียนคำบรรจงตัวใหญ่ๆ ถ้าเป็นภาษาอังกฤษให้ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่ จะช่วยให้เราสามารถ ประหยัดเวลาได้ เมื่อย้อนกลับไปอ่านอีกครั้ง 4. เขียนคำเหนือเส้นใต้ แต่ละเส้นต้องเชื่อมต่อกับเส้นอื่นๆ เพื่อให้ Mind Map มีโครงสร้างพื้นฐานรองรับ 5. คำควรมีลักษณะเป็น "หน่วย" เปิดทางให้ Mind Map คล่องตัวและยืดหยุ่นได้มากขึ้น 6. ใช้สีทั่ว Mind Map เพราะสีช่วยยกระดับความคิด เพลินตา กระตุ้นสมองซีกขวา 7.
สรรพนามแทนผู้พูด ผู้ฟัง และผู้ที่กล่าวถึงหรือคิดถึง 4. สรรพนามใช้ชี้ระยะ 4. สรรพนามใช้ถาม 4. สรรพนามบอกความไม่เจาะจง 4. สรรพนามบอกความชี้ซ้ำ 4. สรรพนามเชื่อมประโยค 4. 7. สรรพนามใช้เน้นนามตามความรู้สึกของผู้พูด 5. ๓. คำกริยา 5. 1) กริยาใช้เป็นส่วนขยายของคำนาม 5. 2) กริยาใช้เหมือนคำนาม 6. ๔. คำวิเศษณ์ 6. ข้อควรสังเกต 6. คำบางคำอาจทำหน้าที่เป็นคำวิเศษณ์ และในบางโอกาสทำหน้าที่เป็นคำกริยาสำคัญใน ประโยค 6. คำนามบางคำ อาจทำหน้าที่ขยายคำอื่นได้ ซึ่งในกรณีนี้ถือว่าคำนามคำนั้น ทำหน้าที่ คำวิเศษณ์ 6. ในการเรียงคำเข้าประโยคในภาษาไทย ส่วนใหญ่เรามักให้ส่วนขยายตามหลังคำที่ขยาย 7. ๑. คำนาม 7. คำนาม คือ คำที่แสดงความหมายถึงบุคคล สัตว์ วัตถุ สิ่งของ สภาพ อาการ ลักษณะซึ่ง หมายรวมทั้งสิ่งมีชีวิต และไม่มีชีวิต ทั้งที่เป็นรูปธรรมและที่เป็นนามธรรม ขอให้สังเกตคำที่ขีดเส้นใต้ต่อไปนี้ แมว กัด หนู