คือ ถ้าพูดกันง่ายๆ ถ้ารอบเครื่องยนต์ไม่ถึงในรอบเครื่องยนต์ที่กำหนดไว้? ระบบแรงดันน้ำมันเครื่องมีแรงดันไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดระบบ VTEC จะไม่ทำงานในทางกลับกับถ้ารอบเครื่องถึง? แรงดันน้ำมันเครื่องถึง ความสมบูรณ์ทุกอย่างพร้อม? ระบบวาล์วแปรผัน VTEC ที่เป็นขวัญใจวัยรุ่นขาซิ่ง ทั้งหลายก็จะแผดเสียงคำรามออกมาพร้อมทั้งรีดพลังแรงม้าออกมาให้เห็นจนต้องร้อง ว้าวว!! กันเลยก็เป็นได้ ดังนั้นถ้าเรามองความแตกต่างกันเพียงเฉพาะทั้ง 2ค่ายนี้ สิ่งที่แตกต่างก็อยู่ที่วิธีการใช้งาน จังหวะการทำงานของระบบวาล์วแปรผัน เพียงเท่านั้น แต่เป้าหมายหรือผลลัพท์ ก็เพื่ออัตราเร่งที่ดีประหยัดและคายไอเสียได้เหมาะสมเหมือนกัน ผมไม่ฟันธงหรือมาตัดสินนะครับว่า ใครดีกว่ากัน? ผมว่าดีทั้งคู่ล่ะครับ?? และ? ท้ายที่สุดนี้? บทความนี้ไม่ได้บอกว่าระบบวาล์วแปรผันของ 2 ค่ายนี้ดีที่สุดนะครับ? เพียงแค่หยิบมาบอกเล่ากันเป็นกรณีศึกษาถึงระบบวาล์วแปรผันคืออะไร? ซึ่งจริงๆ แล้ว ระบบวาล์วแปรผันมีอยู่ในทุกค่ายรถ และแต่ละค่ายรถต่างก็พัฒนาออกมาได้ดีจนปัจจุบัน แต่เพียงแค่ในวงการที่ผมสัมผัส มี 2 ค่ายนี้ที่ค่อนข้างจะเป็นที่สงสัยหรือพูดถึงกันบ่อยๆ และมักเป็นประเด็นในการถกเถียงในเรื่องความเจ๋ง ความแจ๋วในหมู่วัยรุ่นก็เพียงเท่านั้น??
5-ลิตรนะครับ เพราะว่าเครื่องฝาแดง 2. 0-ลิตร เทอร์โบ ยังมีวาล์วแปรผันระยะยกอยู่เน้อ (Lifting) เห็นข้อแตกต่างไหมครับ นั่นก็คือว่า VTEC TURBO ของเครื่อง 1.
หรือ เครื่องยนต์ ขนาด 1, 600 ซีซี 4 สูบ 16 วาล์ว VTEC เป็นต้น.. ซึ่งในรายละเอียดสเปคนี้ก็จะบ่งบอกว่า รถคุณมีการทำงานทั้งหมด 4 สูบ มีความจุกระบอกสูบรวมทั้งหมด 1, 500 ซีซี หรือ 1, 600 ซีซี? และ มีการทำงานทั้งหมด16 วาล์ว? และที่สำคัญตัวอักษรที่ต่อท้ายยังบอกด้วยว่า เป็นระบบวาล์วที่พิเศษ นั่นคือเป็นเครื่องยนต์ที่มีระบบการทำงานในแบบระบบวาล์วแปรผัน นั่นเองครับ วาล์ว คืออะไรในเครื่องยนต์? วาล์ว คือ ชิ้นส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญในการทำงานของเครื่องยนต์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ในระบบ เบนซินหรือ ดีเซลก็ตาม ซึ่ง วาล์ว มีหน้าที่ในการ เปิด และ ปิด? อากาศดี และ อากาศเสีย ให้เข้าในห้องเผาไหม้ และไหลออกจากห้องเผาไหม้ ในเครื่องยนต์ให้เป็นไปในจังหวะที่ถูกต้อง และ ควบคุมให้อากาศเข้าออกในปริมาณที่เหมาะสมนั่นเอง แต่ด้วยการพัฒนาระบบการทำงานของ วาล์วในเครื่องยนต์ยุคใหม่ ได้มีการปรับปรุงให้มีความสามารถสูงขึ้นและมีความทันสมัยมากขึ้น เพื่อรีดกำลังและใช้เชื้อเพลิงในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงคายไอเสียในปริมาณที่ต่ำลง ในค่ายรถแต่ละค่ายจึงได้พัฒนาระบบ? วาล์วแปรผัน? ขึ้นมานั่นเอง ซึ่งระบบ วาล์วแปรผัน คือกลไกการทำงานของวาล์วในรูปแบบปกตินั่นแหละครับ ซึ่งหน้าที่มันเหมือนเดิม แต่เพียงเพิ่มความฉลาดในการทำงานของมันเอง เพื่อที่จะเปิด / ปิด อากาศดีหรืออากาศเสีย ให้เข้า หรือ ออก จากเครื่องยนต์ได้มากขึ้นหรือเร็วขึ้นหรือเปิดได้นานขึ้นตามการใช้งานของเครื่องยนต์ในช่วงเวลานั้นๆ เช่น ถ้าเราต้องการใช้ความเร็วสูงมากขึ้นในระหว่างการขับขี่ เมื่อความเร็วรอบสูงขึ้น หากเครื่องยนต์ได้ถูกออกแบบการทำงานของระบบวาล์วแปรผัน ไว้?
ชุดวาล์วในแต่ละสูบตามจังหวะการทำงานก็จะเปิดได้นานขึ้นหรือมากขึ้น เพื่อดึงอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้เร็วขึ้น ทำให้เครื่องยนต์มีอัตราเร่งและมีกำลังที่ดีขึ้นนั่นเองครับ ค่ายผู้ผลิตรถค่ายไหน.. ที่ทำเครื่องยนต์ให้เป็นระบบ? วาล์วแปรผัน บ้าง? บอกเลยครับในยุคสมัยนี้ทุกค่ายรถเลยล่ะครับ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่นหรือยุโรป? ได้ออกแบบเครื่องยนต์และใช้ระบบวาล์ว เป็นระบบวาล์วแปรผันแทบทั้งนั้น? เพราะอย่างที่กล่าวไว้ครับ.. การควบคุมปริมาณอากาศ เข้า / ออก จากห้องเผาไหม้ คือตัวแปรสำคัญในลำดับต้นๆ? ที่จะทำให้เครื่องยนต์มีสมรรถนะที่ดี.. เพราะถ้าอากาศเข้าออก? ในปริมาณที่เหมาะสม? และส่วนผสมระหว่าง อากาศ + น้ำมัน + ไฟ สมดุลกัน เครื่องยนต์จะทำงานได้สมบูรณ์? ดังนั้นด้วยยุคสมัยและการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ทางค่ายผู้ผลิตรถยนต์ นอกจากจะออกแบบการทำงานให้วาล์วเปิด/ปิด ตามหลักการแล้ว ยังได้เพิ่มเติมเสริมเขี้ยวเล็บให้กับเครื่องยนต์ในค่ายตัวเอง โดยการพัฒนาระบบการทำงานให้เป็นระบบ วาล์วแปรผัน เพิ่มเติมขึ้นมา เพื่อที่จะทำให้เครื่องยนต์ มีสมรรถนะ และ ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น นั่นเองครับ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเครื่องยนต์รถเราเป็น? ระบบวาล์วแปรผัน?